คลีนิคหมอดูสุขภาพจิต คลีนิคสุขภาพจิต
จิตเวช สระบุรี
สมชาย สำราญเวชพร จิตเวช สระบุรี
หมอดูสุขภาพจิต หนังสือสุขภาพจิต สมชาย สุขภาพจิต หมอดู สระบุรี ถามตอบสุขภาพจิต หมอสมชาย สำราญเวชพร
นายแพทย์สมชาย สำราญเวชพร
นายแพทย์สมชาย สำราญเวชพร
ปัญหาสุขภาพจิต
สาระน่ารู สุขภาพจิต
โรคสมองเสื่อม (Dementia)
โรคนอนไม่หลับ (Insomnia)
การฆ่าตัวตาย (Suicide)
สุขภาพจิตน่ารู้
 
สั่งซื้อหนังสือ
หนังสือสุขภาพจิต
Head_9.jpg
โกรธเธอแล้วนะ

บางครั้งคนเราก็ไม่รู้จักตัวเองเหมือนกัน พบเห็นกันอยู่บ่อยๆ เช่นไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่ากำลังโกรธเขาอยู่ ปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้โกรธใครเลย บ้างก็บอกว่าไม่เมาทั้งๆ ที่กลิ่นเหล้าเหม็นหึ่งและเดินเป๋ไปเป๋มา เดินไม่ตรงทางแล้วก็ตาม สำหรับใครบางคนที่รู้จักตนเองดี ตอนที่ยังอารมณ์ดี เขายอมรับได้ถึงข้อบกพร่องของตน รู้ว่าเวลาที่เขาอารมณ์ไม่ดีหรือคิดมาก เขาชอบลืมตัว ยับยั้งชั่งใจไม่ได้ แต่ก็ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไรในตอนนั้น บังคับตนเองไม่ได้เลย กล่าวคือตอนดีๆ ก็อยากแก้ไข ครั้นพออารมณ์ไม่ดีขึ้นมา ก็แก้ไขตนเองไม่ได้ เหมือนคนละคนกัน นี่คือข้อเท็จจริงที่คนเรามักวนเวียนกันอยู่เช่นนี้ทุกวี่วัน

ว่ากันว่าคนเราอาจรู้จักตนเองครบทั้ง 24 ชั่วโมง และถึงแม้จะนับเฉพาะเวลาที่เราตื่นตัวอยู่โดยตัดทอนเวลาที่นอนหลับทิ้งไปก็ตาม เวลาก็อาจขาดหายไปอยู่ดี บางคนหารองเท้าของตนไม่พบ มาพบอีกที เอ! ทำไมมันมาอยู่ใต้บันไดได้ บ้านของเราก็มีเราอยู่เพียงคนเดียว นี่ก็แสดงว่าเขาได้หยิบรองเท้าไปวางไว้ใต้บันไดตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แถมเขายังจดจำไม่ได้อีกว่าได้หยิบไปวางไว้ใต้บันได นึกเท่าไรก็นึกไม่ออก

เป็นความจริงที่ว่าถ้าเรายอมรับกับอารมณ์ของตนเองได้ อารมณ์ของเราก็จะถูกปลดปล่อยออกมาอย่างเสรี อาทิ สามารถร้องไห้เสียใจเมื่อสุนัขตัวโปรดตายไป หรือแสดงอาการโกรธกริ้วออกมาและสามารถบอกเพื่อนของเราได้ว่าเรากำลังโกรธนาย เพราะนายทำให้เราเสียหน้า เป็นต้นอย่างไรก็ตามหลายคนได้พยายามเก็บกดอารมณ์และความรู้สึกของตนเองเอาไว้ ไม่ให้หลุดลอดออกมา กระทั่งมันถูกปลดปล่อยเปลี่ยนแปลงออกมาในรูปแบบอื่นๆ อาทิ ความวิตกกังวลในเรื่องการทำงาน แล้วแปรเปลี่ยนเป็นอาการความเจ็บป่วยทางร่างกาย มีอาการปวดศีรษะ ปวดท้อง ท้องเสีย ฯลฯ และถ้าวันนั้นเอง ผู้บังคับบัญชาจะมาตรวจงาน ก็เลยพาลไม่สบายสารพัด หรืออย่างอารมณ์โกรธก็เหมือนกัน ครั้นพอโกรธจัดๆ ก็กลายสภาพไปเป็นอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง หรือถึงขั้นปวดศีรษะแบบไมเกรนได้ ทั้งนี้เพราะโกรธเขาแล้ว แต่กลับทำอะไรเขาไม่ได้สมใจ ต้องเก็บกดความโกรธเอาไว้นั่นเอง บางคนก็อาจมาด้วยอาการหอบ หายใจเร็ว มือเท้าเย็น หมดสติจนต้องถูกนำส่งห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล เป็นต้น

ตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยหญิงรายหนึ่งที่ต้องพึ่งสามีหาเลี้ยงตั้งแต่เริ่มแต่งงานกันมา สามีเป็นผู้นำครอบครัวที่ดี และวันหนึ่งเธอได้มารู้ความจริงที่ว่าสามีของเธอมีผู้หญิงอื่นอีกคนซึ่งกำลังตั้งครรภ์แก่ใกล้คลอด เธอไม่สามารถพูดอะไรได้ ทั้งโกรรธทั้งน้อยใจ แต่ก็ทำอะไรเขาไม่ได้ เรียกร้องอะไรไม่ได้ หรือจะแสดงอารมณ์โกรธ ไม่พอใจออกมาก็ไม่ได้ เพราะต้องพึ่งเขาหาเลี้ยงนั่นเอง ก็เลยแสดงออกมาเป็นอาการหอบ หายใจเร็ว มือเท้าเย็นชาและหมดสติไปอย่างไม่รู้ตัว

หรืออย่างเช่นเมื่อเร็วๆ นี้ ผมมีผู้ป่วยหญิงรายหนึ่ง เธอมีอายุราว 45 ปี สามีของเธอนำเธอส่ง ร.พ. เพราะเธอไม่ยอมพูด ไม่ยอมกิน นอนหงายลืมตาโพลงอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรเลย อาการเป็นแบบกระทันหันในช่วงเวลา 1 ถึง 2 วันเท่านั้น พอผมให้ยาทางจิต เธอก็ดีขึ้น กลับมาพูดได้เหมือนปกติ เธอไม่รู้ว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาได้เกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้าง แต่เธอคลับคล้ายคลับคราว่าเธอได้เลือกกดปุ่ม 3 ปุ่ม มีปุ่มสีน้ำเงิน ปุ่มสีแดง และปุ่มสีดำ แล้วเธอก็เลือกกดปุ่มผิด เข้าทำนองเดียวกันกับการเล่นเกมส์ พอหลังจากนั้นมา เธอก็รู้ตัวว่าเธอกำลังถูกตามฆ่า เธอจึงไม่ยอมกินอะไรเพราะกลัวถูกวางยาพิษและไม่ยอมพูดจากับใครๆ ทั้งนั้น ทั้งนี้เพราะกลัวว่าเขาจะล่วงรู้ความลับและทำร้ายเธอได้ เธอไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไร แต่ก่อนที่จะเกิดความเจ็บป่วยเช่นนี้ เธอค่อนข้างเครียดมาก (หรือเรียกว่าเครียดจนสติแตกก็ได้)

เอาล่ะ แล้ววันหนึ่งก็มีสองสามีภรรยาคู่หนึ่งมาพบผมที่คลินิก ฝ่ายหญิงคือคนป่วย เธอบอกว่าเธอมีอาการย้ำคิด เธอชอบคิดซ้ำๆ ว่าเธอได้ทำเงินหล่นหายไปจากมือ หรือเธอขว้างแบงค์ทิ้งไป หรือแม้แต่เรื่องการทอนเงินให้ลูกค้า เมื่อเธอจ่ายเงินทอนไปแล้ว เธอก็มักไม่แน่ใจว่าเธอได้ทอนผิดไปหรือไม่? มันเป็นเสมอๆ วันละหลายๆ ครั้ง และทำให้ชีวิตของเธอต้องปราศจากความสุข เธอพยายามอดทนต่อความคิดที่ไร้สาระเช่นนี้และรู้ว่ามันไม่ใช่ความเป็นจริง หากแต่เธอก็ไม่สามารถลบล้างความคิดที่หมกมุ่นเหล่านี้ให้ออกไปจากสมองของเธอได้ จนในที่สุดเธอจึงพยายามค้นหาหนทางรักษาและได้รับคำแนะนำให้มาพบกับจิตแพทย์

เธอดูแก่กว่าฝ่ายชายทั้งๆ ที่อายุไร่เรี่ยกัน ด้วยริ้วรอยย่นบนใบหน้าและอาการเครียดที่ปรากฎให้เห็น เมื่อเธอได้หยิบยกประเด็นอาการความเจ็บป่วยมาปรึกษาหารือ ผมจึงได้ติดตามประเด็นนี้ ผมถามเธอถึงช่วงเวลาที่เธอเริ่มแสดงอาการความเจ็บป่วย เธอบอกว่า เท่าที่จำได้ เธอน่าจะมีอาการย้ำคิดมาตั้งแต่ต้นปีนี้ และนี่ก็เกือบปลายปีแล้ว ซึ่งถ้าจะให้เธอต้องทนอยู่กับความเจ็บป่วยเช่นนี้ต่อไปโดยไม่มีทางเลือก เธอก็คงทำได้ ผมจึงใช้โอกาสนี้อธิบายให้เธอเข้าใจถึงอาการย้ำคิด-ย้ำทำ ซึ่งปรากฏได้หลายลักษณะ อาทิ ผู้ป่วยบางรายไม่แน่ใจว่าได้ปิดล็อคประตูบ้านเรียบร้อยหรือยังทั้งๆ ที่เพิ่งปิดไปเมื่อตะกี้นี้เอง จนต้องเดินลงมาปิดล็อกประตูซ้ำๆ อีกหลายหน กระทั่งเกิดมั่นใจและสามารถหยุดพฤติกรรมซ้ำๆ ลงได้ชั่วคราว หรือในบางรายอาจต้องล้างมือซ้ำๆ บ่อยๆ เพราะกังวลว่ามือจะสกปรก หรือรู้สึกได้ถึงความเลอะเทอะเปรอะเปื้อนที่ติดอยู่ที่มือตลอดเวลา หรือที่เป็นปัญหามากของผู้ป่วยชายรายหนึ่ง เมื่อเขานั่งใกล้กับผู้หญิงคนใดก็ตาม สายตาของเขาเป็นต้องเหลือบลงไปจับจ้องที่ขาอ่อนของเธอทุกคน จนรู้สึกได้ว่ามันอาจก่อให้เกิดปัญหาความเข้าใจผิดเข้าสักวันหนึ่งก็ได้ เขาไม่อาจบังคับมันได้ มันเผลอไปทุกที เป็นต้น

ผมขอให้เธอเล่าถึงเหตุการณ์ความเครียดที่รุนแรงในช่วงเวลาก่อนหน้านั้น เธอได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่สามีของเธอนอกใจเธอเมื่อปลายปีที่แล้ว เธอจับได้และเสียใจอย่างมาก ตอนนี้เธอหมดความเชื่อถือในตัวสามีของเธอ แม้ว่าเขาจะได้รับปากว่าเหตุการณ์เช่นนั้นจะไม่เกิดขึ้นอีกก็ตาม และเขาก็พยายามทำความดีเป็นการชดเชย เธอหันไปมองตาสามี และสามีของเธอก็พยักหน้า แต่ดูสีหน้าของเธอชักเริ่มไม่สู้ดีนัก ไม่นานนัก น้ำตาของเธอก็เริ่มไหลออกมา เธอร้องไห้ต่อหน้าผม “คุณหมอค่ะ ฉันลืมมันไม่ได้ เขาทำร้ายฉันให้ตายทั้งเป็น” ผมหยิบกระดาษทิชชูส่งให้เธอซับน้ำตา เธอยกมือไหว้ผมก่อนหยิบกระดาษทิชชูมาเช็ด ส่วนสามีของเธอก็นั่งหน้าจืดๆ อยู่ข้างๆ สักพักหนึ่งเมื่อเธอควบคุมอารมณ์ตนเองได้ เธออธิบายต่อ “ฉันให้สัญญากับเขาว่าฉันจะให้อภัยเขาและจะไม่รื้อฟื้นมันขึ้นมาอีก แต่บางครั้งฉันก็ทำมันไม่ได้” ผมถามเธอ “คุณคงยังโกรธเขาอยู่หรือ?” เธอพยักหน้า “ค่ะ ถ้าโกรธใครแล้วโกรธนาน บางครั้งก็ไม่ชอบตัวเองเลย รู้ตัวว่ามันไม่ดี ก็เราให้อภัยเขาแล้ว ก็ไม่น่าจะโกรธเขาอีก” ผมเปรยกับเธอ “เป็นไปได้ไหมที่อาการย้ำคิดมันเกิดขึ้นเพราะสาเหตุนี้” เธอตีสีหน้าสงสัย “มันเป็นเพราะอะไรหรือ?” ผมอธิบายให้เธอเข้าใจ “บางที ความคิดซ้ำๆ ของคุณ มันได้เข้ามาแทนที่ความโกรธ มันคงพยายามช่วยลดทอนความไม่สบายใจของคุณก็เป็นได้ คุณโกรธเขา แต่คุณก็ไม่อยากโกรธเขา ใช่ไหม?” เธอยอมรับพร้อมกับผงกศีรษะ “ค่ะ กลัวเดี๋ยวเขาจะหาว่าฉันใจแคบ ตกลงกันแล้วก็ต้องโยนทิ้งไปให้ได้ แล้วเริ่มต้นกันใหม่” ผมเข้าใจเธอและปลอบเธอ “บางที การกดดันด้วยเรื่องเก่าๆ ที่ผ่านมา มันอาจกลับกลายเป็นแรงกดดันให้เขาทำมันจริงๆ ก็ได้ในอนาคต เช่นถ้าเราไม่เชื่อเขา แล้วเหน็บแนมเขาบ่อยๆ ในเรื่องเดิมๆ บางทีเขาอาจนึกไปว่าก็อยากให้เป็นนัก เลยเป็นมันเสียเลย ไปมีคนใหม่เสียเลยดีกว่า เพราะอยู่ที่บ้านก็ไม่มีความสุข มีแต่ความหวาดระแวงสงสัย”

เธอแสดงอาการยอมรับด้วยการเผยอยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ผมอธิบายต่อไป “เมื่อเราย้ำคิดเรื่องใดเรื่องหนึ่งซ้ำๆ มันทำให้ความสนใจในเรื่องความเครียดกับอารมณ์ที่ขุ่นมัวจากความเครียดก่อนหน้านั้นถูกปิดบังหรือละเว้นออกไปชั่วคราว เพื่อกลบเกลื่อนปัญหาต่างๆ คุณจึงยังคงย้ำคิดในเรื่องนั้นอยู่ต่อไป” เธอพูดแทรก “ดิฉันพอจะเข้าใจ แล้วจะให้แก้ไขอย่างไรดี มียารักษาหรือเปล่า?” ผมตอบเธอด้วยท่าทีที่สงบ “มีครับ มียาที่ลดอาการย้ำคิดซ้ำๆ ได้และมันยังช่วยลดอารมณ์เศร้าลงได้อีกด้วย ซึ่งที่จริงความโกรธและความเศร้าของคุณ มันเป็นเรื่องเดียวกัน สำหรับการปลดปล่อยเรื่องราวในอดีตนั้น เราอาจใช้การปฏิบัติในสิ่งที่อยู่ตรงกันข้าม อาทิ การให้ทานก็เพื่อลดละความเห็นแก่ตัว หรือการท่องบทสวดแผ่เมตตาอยู่เนืองๆ ก็เพื่อการละเว้นซึ่งความความโกรธ หรือเมื่อโกรธเขา ก็มักคิดว่าเขาจงใจแกล้งเรา เราจึงอภัยเขาไม่ได้ แต่ถ้าคิดว่าเขาคงผิดพลาดพลั้งไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของปุถุชน ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซนต์ เช่นนี้ก็คงพอจะทำใจยอมรับได้”

เธอรับฟัง แต่เธอก็ยังสนใจในประเด็นของยารักษามากกว่าการแก้ไขที่ตนเอง “เมื่อกี้คุณหมอบอกว่ามียาที่สามารถลดอาการย้ำคิดได้ จริงหรือค่ะที่ยาจะช่วยลดความคิดซ้ำๆ ได้” ผมตอบเธอ “มีซิ แต่ไม่ใช่ยาที่กินเข้าไปแล้วทำให้คุณง่วงหลับเพียงอย่างเดียว เลยคิดอะไรไม่ออกหรือไม่ทันได้คิดอะไร หากแต่ยานี้จะทำให้คุณสดชื่น ความคิดเป็นระเบียบมากขึ้น” เธอไม่ได้ถามผมว่า ทำไมเนื้อหาของอาการย้ำคิดของเธอจึงออกมาในรูปลักษณะของการสูญเสียเงินทอง ซึ่งผมอาจหาคำตอบให้ไม่ได้ แต่ก็เป็นไปได้ที่เธอและเขาก่อร่างสร้างตัวมาจากการค้าขายด้วยกัน และถึงทุกวันนี้ ทั้งสองคนก็ยังคงยึดอาชีพค้าขาย ช่วยกันทำมาหากิน ขายโชยห่วย เก็บเล็กผสมน้อย เธอคงเป็นคนตระหนี่ถี่เหนียว รู้ซึ้งถึงคุณค่าของเงินและคงเสียดายเงินทองในช่วงที่สามีของเธอนำไปปรนเปรอเบอร์สองนั่นเอง

ใช่เลย มันยากส์นะที่จะเอาชนะตัวเองให้ได้จริงๆ

 
Copy All Right Reserved 2013 www.หมอดูสุขภาพจิต.com
เลขที่ 1/26 ถ.สุดบรรทัด13 ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี 18120